Sunday, 27 November 2011

แต่งหน้า ปกปิด รอยคล้ำใต้ตา ทำอย่างไร

สาวๆหลายคนมักประสบปัญหาผิวรอบดวงตา ไม่ว่าจะเป็น ใต้ตาคล้ำ อันเนื่องมาจากหลายสาเหตุ เช่น นอนดึก ใช้คอมพิวเตอร์นานเกินไป ภูมิแพ้ ท้องผูก ทานยาบางประเภท การสัมผัสผิวรอบดวงตาอย่างผิดวิธี ฯลฯ นอกจากนี้อาจเป็นปัญหาเรื่องถุงใต้ตา ซึ่งทำให้ตาดูบวมปูดเป็นตูดไก่ เกรซมีเคล็ดลับช่วยอำพรางจุดบกพร่องดังกล่าวมาบอกกันค่ะ
ขั้นตอนก่อนแต่งหน้า
ถ้าตื่นมาแล้วเจอปัญหาตาคล้ำ หรือถุงใต้ตา รีบควานหาตัวช่วย  อย่าง ถุงชา หรือ แตงกวา หรือ ช้อนกินข้าว แช่ตู้เย็นสักแป๊บ แล้วนำมาโป๊ะใต้ตาประมาณ 10 นาที ความเย็นจะช่วยลดความบวม ส่วนถุงชากะแตงกวาช่วยให้ดวงตาสดใสขึ้น หรือถ้ามีมาร์คสำหรับใต้ตาโดยเฉพาะ ก็จัดการเลยค่ะ

ขั้นตอนการปกปิดด้วยเบส คอนซีลเลอร์และรองพื้น

อุปกรณ์ที่ใช้ ก็มี
1. คอนซีลเลอร์ สีเดียวกับผิวหรืออ่อนกว่านิดนึง


2. เบสสีอมแดง เบสสีเหลือง หรือจะให้เริ่ดก็ไปสอย corrector มาค่ะ คอร์เร็คเตอร์ คือ เบสที่ช่วยปรับสีผิวใต้ตาก่อนลงคอนซีลเลอร์ค่ะ



3. รองพื้น
4. ไฮไลท์ ครีม
4. แปรงทาคอนซีลเลอร์ จะใช้มือก็ได้ค่ะ แต่ถ้าใช้แปรงจะซอกซอนในพื้นที่แคบได้ดีกว่า
หลายคนสงสัยว่า แค่อิแค่รอยคล้ำ ทำไมไม่ลงแค่คอนซีลเลอร์ ถ้าคล้ำมากก็ลงมาก แหมหล่อน คือ อย่างนี้ค่ะ ในกรณีที่รอยคล้ำแค่จางๆ คอนซีลเลอร์ดีๆก็น่าจะเอาอยู่ แต่ถ้าคล้ำมาก คล้ำมานานค่อนชีวิตแล้ว คอนซีลเลอร์จากเทือกเขาเอลฟ์ ก็ช่วยคุณไม่ได้หรอกค่ะ มันต้องปรับสีผิวใต้ตาก่อน
เริ่มเลยนะจ๊ะ
1. ปรับสีผิวใต้ตาด้วยเบสหรือ corrector  สังเกตว่ารอยคล้ำเป็นสีอะไร ถ้าสีออกม่วงๆ ดำๆ ก็ใช้เบสอมแดงส้ม หรือ สีแซลมอนลง ถ้ารอยคล้ำออกแดง ให้ใช้เบสสีเหลือง วิธีลงให้กดทับด้วยนิ้วหรือแปรง แต่อย่าลาก วิธีการลงเบสสามารถนำไปใช้กับรอยสิวและจุดด่างดำอื่นๆได้ด้วย
2.ตามด้วยคอนซีลเลอร์ ใช้เท่าที่จำเป็นทีละน้อย ถ้าลงมากเดี๋ยวแป้งจะตกร่องแตกลายงา เราใช้สีในการอำพราง ไม่ได้ใช้ความหนานะคะ
3.ลงรองพื้น
4.ไฮไลท์ ถ้าเป็นแบบครีมก็ลงเลยจ้ะ กดทับรอยคลัำ ใครมีถุงใต้ตาอย่าลงไฮไลท์ในส่วนที่เป็นถุงนะคะ เพราะสีขาวของไฮไลที่จะทำให้ถุงใต้ตาใหญ่ชัดขึ้นไปอีก ในลงตรงเฉพาะขอบๆที่คล้ำ ถ้าใครใช้แบบฝุ่นก็ลงหลังจากที่ทาแป้งฝุ่นเสร็จจ้ะ แต่ถ้าในแนะนำ แบบครีมก่อนแล้วตามด้วยแบบฝุ่น
5.แป้งฝุ่น กดทับเบาๆ ถ้าเป็นเฉดออกเหลืองได้ก็ยิ่งดี
6. เสร็จแล้วก็พิจารณาสังขารค่ะ ไม่เที่ยงใช้มั้ยคะ ฮ่าๆๆ ถ้าเอาอยู่แล้วก็แต่งหน้าลั้ลลาปกติ
7. ท่าทางจะเอาไม่อยู่ น่ากลัวจะดูไม่จืด ให้ใช้การแต่งหน้าเข้าช่วยด้วย หากขอบตายังมีรอยคล้ำอยู่ก็ไม่ต้องเขียนขอบตาล่าง แต่ให้ใช้อายแชโดว์สีขาวมุก หรือ ดินสอเขียนขอบตาสีขาว แตะตรงมุมหัวตานิดหน่อยเพื่อเพิ่มความสดใสในดวงตา  และติดขนตาปลอมเข้าไป ใช้ความแบ๊วสยบความบกพร่อง โอเคมั๊ยคะ
8.อาจจะใช้วิธีทาปากสีเข้ม เพื่อเบนความสนใจจากดวงตามาที่ปากก็ได้ค่ะ ถือโอกาสเปลี่ยนลุคส์ไปด้วย

การป้องกันย่อมดีกว่าการแก้ไขอยู่แล้ว ดังนั้น ควรหาสาเหตุที่ทำให้ใต้ตาคล้ำให้เจอ ถ้าเจอแล้วก็พยายามหลีกเลี่ยง บางทีอาจต้องพบแพทย์เพราะอาจจะมาจากอาการเจ็บป่วยบางอย่าง พยายามดื่มน้ำ ทานผักผลไม้ให้มากขึ้น ถ้าปล่อยให้ท้องผูก หรือ ถ้าอายครีมที่ใช้อยู่ไม่ได้ช่วยอะไร แล้วจะใช้ต่อไปเพื่อ ควรเปลี่ยนไปเรื่อยๆ จนกว่าจะมีซักยี่ห้อที่ทำให้รอยคล้ำจางลง ดีกว่านะคะ


Wednesday, 23 November 2011

ปัดแก้ม สีไหน ด้วยอะไร ตรงไหน อย่างไร

มาตามคำเรียกร้องของเพื่อนสาวที่บอกว่า ชั้นไม่ชอบแต่งตา แกพูดเรื่องปัดแก้ม ทาปาก บ้างสิ ก็ได้จ้า (แต่ในใจคิดว่า ไหนๆก็แต่งหน้าแล้วก็แต่งให้ครบองค์สิยะ) มาเริ่มกันเลย เรามารู้จักประเภทของบลัชออนกันก่อน

1. แบบฝุ่น  แบบนี้เป็นที่นิยมกันอย่างแพร่หลาย มีทั้ง สีด้าน ได้ อาย อด สีประกายมุก วิ้งๆ ใช้ปัดหลังขั้นตอนของการลงแป้ง ข้อดีของแบบฝุ่น คือ ปัดง่าย
2. แบบครีม ใช้ลงก่อนหรือหลังทารองพื้น ก่อนทาแป้งฝุ่น เกลี่ยให้ทั่วก่อนลงแป้งฝุ่นนะคะ ไม่งั้นจะเป็นคราบ ข้อดีของบลัชครีมคือ ติดทนและสีระเรื่อสวยเหมือนเลือดฝาด(ถ้าทาเป็น) และเราสามารถใช้แบบครีมลงก่อน แล้วใช้แบบฝุ่นปัดทับภายหลังอีกได้  กรณีอยากทาบลัชครีมขึ้นมาบัดเดี๋ยวนั้น แต่ไม่มี ทำงัย ก็ใช้ลิปสติกเลยค่ะแทนบลัชครีมได้เหมือนกัน บางยี่ห้อเค้าผลิตมาแบบ multiple ใช้ได้ทั้งตา แก้ม ปาก ก็สะดวกดี
3. แบบกึ่งครีม คือ สีสันชัดเจนเหมือนครีม แต่พอทาไปแล้วแห้งเหมือนฝุ่น
4. แบบ Tint มีลักษณะเป็นน้ำ ใช้ลงก่อนหรือหลังรองพื้น ให้ความรู้สึกเบา เหมาะสำหรับผิวมัน จะค่อนข้างแห้งเร็ว ต้องรีบเกลี่ยนิดนึง

            หลังจากลงบลัชออนแล้ว บางคนก็อาจจะลงชิมเมอร์เพื่อให้แก้มเป็นประกายสุกปลั่งด้วยก็ได้ แต่ไม่ควรลงไปทั้งแก้มจะทำให้แก้มดูใหญ่ โดยเฉพาะคนหน้ามัน จะทำให้หน้าดูมัน รูขุมขนกว้าง  ถ้าลงเยอะเวลาถ่ายรูปออกมาหน้าจะแลดูมัน เหมือนเพิ่งเสร็จจากวิ่ง 4x100  ควรปัดโดยไล่น้ำหนักสีจากเข้มมาอ่อน และ ลงสีเข้มใต้สีอ่อนอีกสีนึงจะทำให้โครงหน้าชัดเจนขึ้นด้วย

แล้วใช้อะไรปัดดีค่ะ
แปรงปัดแป้ง แปรงปัดแก้ม และ
แปรงปัดชิมเมอร์
สำหรับแบบฝุ่นใช้แปรงปัดแก้ม แปรงใหญ่ปัดง่ายกว่าแปรงเล็ก แบบครีมอาจใช้นิ้วมือหรือฟองน้ำเกลี่ยเอา การใช้แปรง เวลาแตะสี ใช้ด้านแบนๆแตะ แต่เวลาปัด ใช้ด้านหัวแปรงปัดค่ะ หรือ ถ้าใครปัดเก่งจะใช้อะไรปัดก็เหมือนกัน หากสีบลัชออนเข้มมาก อาจเลือกใช้แปรงปัดแป้งแทนแปรงปัดแก้ม เพื่อช่วยกระจายสีไม่ให้กระจุกเป็นจ้ำ ค่อยๆปัดถ้าไม่พอค่อยเติม จะง่ายกว่าปัดเข้มเกินแล้วลบออก


ควรปัดแก้มอย่างไร หลักใหญ่ๆ คือ ปัดทิศทางจากกกหูเข้าหาปลายจมูก น้ำหนักสี เข้มจากด้านนอกมาอ่่อนด้านใน ไม่ปัดเลยเข้ามาเกินตำแหน่งตาดำ ควรให้ตำแหน่งบลัชออนอยู่บริเวณด้านข้างของใบหน้า

การปัดแก้มตามรูปหน้า

รูปหน้ากลม ปัดเป็นสามเหลื่ยมด้านเท่าโดยฐานของสามเหลี่ยมขนานกับหู
รูปหน้าเหลี่ยม  ปัดเป็นสามเหลี่ยมมุมฉาก ด้านฉากของสามเหลี่ยมขนานกับหู ฐานอยู่ด้านล่างของแก้ม
รูปหน้ายาว ปัดเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้าทะแยงตามแนวโหนกแก้ม
รูปหน้าไข่ ปัดจากกึ่งกลางตาดำ ทะแยงไปทางขมับ
รูปหน้าหัวใจ ปัดเป็นวงรีทะแยงเหนือโหนกแก้ม

ยากไปเหรอค่ะ ปกติถ้าเราแก้ไขรูปหน้าโดยการลงไฮไลท์ เฉดดิ้งแล้ว ก็อย่าซีเรียสเรื่องรูปหน้ามากนัก แค่พยายามอย่าปัดต่ำกว่าปลายจมูก(ยกเว้นหน้ากลม ปัดต่ำกว่าได้นิดๆ) อย่าปัดเลยเข้ามาเกินตาดำเพราะจะทำให้แก้มดูใหญ๋ ปัดแก้มสูงช่วยยกหน้า ปัดแก้มต่ำทำให้หน้าอวบอูมขึ้น
ถ้าจะปัดตรง apple cheek อมยิ้มแล้วปัดตรงลูกแอปเปิ้ล ได้มั้ยค่ะ ได้ค่ะแต่ไม่ทุกคน ถ้าตำแหน่งของโหนกแก้มปกติก็ปัดได้ ส่วนใหญ่ผู้หญิงเราพออายุมากขึ้น จุด high cheek bone หรือจุดสูงสุดของโหนกแก้มจะย้อยต่ำลง ซึ่งหากคุณยิ้มแล้วปัดตรง apple cheek เวลาหุบยิ้ม บริเวณที่เราปัดก็จะห้อยลงต่ำ ดึงใบหน้าให้ดูหย่อนคล้อยลงไปอีก ลองจับบริเวณแก้มดู หากระดูกที่เป็นโหนกแก้มแข็งๆ ปกติสีแก้มควรจะอยู่บริเวณนั้นค่ะ

ถ้าจะปัดแบบ sun burn เหมือนพึ่งโดนแดดมา จากแก้มข้างนึงปัดผ่านจมูกมาหาแก้มอีกข้างนึง ได้มั้ยค่ะ ได้ค่ะ แต่ปกติคนที่จะปัดแบบนี้แล้วสวย ควรจะมีดั้งจมูกสูง และ โหนกแก้มสูง ประมาณน้องญาญ่า อุรัสยา อ่ะค่ะ มิฉะนั้นการปัดแก้มแบบนี้อาจทำให้หน้าคุณดูแบนมากกว่าเดิม

แล้วจะลงชิมเมอร์ตรงไหนดี ปกติพอเราปัดแก้มแล้ว ชิมเมอร์มันควรจะอยู่บริเวณเหนือบริเวณที่เราปัดแก้มค่ะ อาจปัดแค่ตรงโหนกแก้มนิดนึงพอ

เกรซชอบปัดแก้มสีออกส้มค่ะ  เวลาปัดจะใช้สีด้านลงก่อน แล้วใช้สีน้ำตาลลงเป็นเฉดดิ้งเบาๆใต้แนวที่ปัดแก้ม จากนั้นแตะชิมเมอร์ลงเพียงเล็กน้อย

บรัชออนสีโปรดก็จะมี

M.A.C สี Peach ปัดจนเป็นรูโบ๋
จะใช้บ่อยมากเวลาคิดอะไรไม่ออก ปัดแล้วสีจะออกส้ม ไม่เข้มไม่อ่อน กำลังดี ปัดทุกครั้ง สวยทุกครั้ง



อีกสีที่สวยคือ สี Fluer power
เป็นสีชมพูอมส้ม คือจะชมพูก็ไม่ใช่ ส้มก็ไม่เชิง  เอ๊ะ แดงรึป่าว งงๆ เกรซปัดแก้มสีชมพูสดแล้วไม่สวย ชมพูมุกก็แลดูป่วย แต่ชมพูนี้ปัดแล้วรอด บลัชออน ของ m.a.c ติดทนดีค่ะ



Nars สี Exhibit A
ในตลับ สีจะแดงเข้มจนน่ากลัว แต่พอปัดแล้วสวยมาก สีเหมือนผิวบ่มแดด จะออกแดงเหมือนลูกมะเขือเทศอ่ะค่ะ ให้ความรู้สึกแบบ เด็กสาว แก่นๆใสๆวิ่งเล่นในไร่ส้ม ปัดสีนี้ทีไร รู้สึกโลดแล่น ถ้าแต่งตาอ่อน ปัดแก้มสีนี้ ทากลอสสีอีกนิด สวยค่ะ บางคนอาจจะชอบสี orgasm มากกว่า ซึ่งเป็นสีที่ขายดีที่สุดของ Nars  แต่เกรซชอบสีนี้มากกว่าค่ะ สี exhibit A ปัดยากนิดนึง เวลาปัดจะใช้แปรงปัดแป้งปัด เพราะกระจายสีได้ดีกว่าแปรงบลัชออน

Bobbi brown pot rouge สี pale pink
เป็นบลัชครีม สีชมพูใส สวยมากกกกกกกกก วันไหนรู้สึกตื่นมาหน้าดูโรยรา แตะสีนี้เข้าไปแล้วหน้าดูเปล่งปลั่งขึ้นทันตา อีกอย่างนึง ชอบตรงที่เกลี่ยง่าย สีชัดแม้จะเป็นสีชมพูอ่อน ติดทน ตัวนี้สามารถใช้ได้ทั้งตา แก้ม ปากนะคะ แต่ทาปากรู้สึกจะแห้งนิดนึงต้องทากลอสเพิ่ม


Mti rouge สี pink raspberry


เป็นรูจทาแก้มที่ชอบมากๆอีกอันนึง ทาแล้วสีอออกชมพูอมแดง ติดทนมากค่ะ ติดอยู่นิดนึง ที่มีแค่สองสี อีกสีนึงคิอ warm apricot ออกส้ม อยากให้มีมากเฉดกว่านี้ จะกวาดซื้อทุกสีเลยค่ะ ชอบ



แล้วชิมเมอร์ล่ะ

Bobbi brown shimmer brick compact สี Bronze
Bronze
ถ้าเป็นเฉดบรอนซ์ก็ต้องยกให้นางค่ะ เวลาปัดก็ผสมทั้งห้าแถวรวมกัน หรือจะใช้เป็นอายแชโดว์ก็ได้นะคะ เวลาแต่งหน้าโทนน้ำตาล ทำผิวสีแทนปัดชิมเมอร์อันนี้เจิดมาก  เกรซมีอยู่สามสี คือ Bronze , Rose (ชมพูกุหลาบ) สีนี้ก็ชอบมาก แต่ทำแตกอ่ะ



และ Pink oyster (ชมพูเงินๆ)
pink oyster
   






อีกอันนึงก็ Too faced สี pink leopard
สีนี้จะผสม  สีทอง สีชมพู และสีนู้ด เข้าด้วยกัน ตอนที่ซื้อเพราะ  ชอบบีเอ ก็โอเคนะคะแต่ไม่ค่อยได้ใช้ ปัดแล้วจะออกชมพูนิดๆ บรอนซ์หน่อยๆ ทองกรุบกริบ




สาวสีผิวต่างกันควรเลือกสีอย่างไรค่ะ ตามหลักการ คือ สาวผิวขาวปัดสีอะไรก็ได้  ผิวสองสีหรือคล้ำ สีออกส้ม หรือสีอมส้มจะทำให้หน้าสว่างขึ้น แต่ในยุคสมัยนี้เครื่องสำอางค์ได้พัฒนาไปมาก หลายยี่ห้อทำบลัชครีมออกมาให้คนผิวสองสีหรือคล้ำสามารถใช้สีอ่อน เช่น ชมพูอ่อน ทาแล้วสวย ก็มีค่ะ จริงๆแล้ว ปัดแก้มสีอะไรก็ได้ให้เข้ากับสีตา สีปาก บรัชออนกะลิปสติกก็เหมือนน้ำหอมอ่ะค่ะ ต้องไปลองเองที่เคานเตอร์ สีที่เค้าร่ำลือว่าสวย เราปัดอาจจะไม่สวยก็ได้ เลือกสีที่คุณปัดแล้วชอบ ดีที่สุด ครั้งต่อๆไปเกรซ จะพูดถึงเรื่องลิปสติกกันบ้าง ฝากติดตามด้วยนะคะ

Funky punk eye แต่งตา ตามอาจารย์

พอดีจะมีเกรซได้มีโอกาสเข้าไปดูยูทูปของ Mti ครั้งที่ไปแต่งโชว์งานสหพัฒน์ โดยอาจารย์ที่มาแต่งก็อาจารย์ฐาน หรือ จานเจี๊ยบ ที่เราเรียนกัน แต่งหน้า จอย รินลณี แบบ funky punk แบบเล่นสี รู้สึกชอบมากมาย เพราะเป็นลุคส์ที่ไม่ค่อยได้แต่งเดินถนนซักเท่าไหร่ อีกอย่างนึงคือ อยากหน้าเหมือนจอยอ่ะค่ะ คิคิ วันนี้ก็เลยขอลองแต่งตามแบบที่อาจารย์บอกซะหน่อย

1.เหมือนเดิมค่ะ หลังขั้นตอนรองพื้น แป้งฝุ่น ก็ลงเบสที่ตาก่อน วันนี้ใช้พาเลตท์นี้ค่ะ โดยใช้สีสดๆที่ไม่ค่อยได้ใช้ให้เป็นประโยชน์  พาเลตท์นี้ใช้ปัดแก้มได้นะคะ สีไหนปัดแก้มได้บ้าง อย่าตอบว่าสีน้ำเงิน เขียวนะคะ จะโกรธ


2. ลงสีแรก คือ สีเหลืองมะนาวทั่วเบ้าตา ทารวมไปถึงใต้โหนกคิ้วเลยค่ะ จากนั้นใช้สีทองลงทับไปอีก



3. ลงสีม่วง หา ฟังไม่ผิดหรอกค่ะ สีม่วง ตัดกันโช๊ะเชะ  ลงไปตามแนวเบ้าตา เป็น V shape

4.ชักหวั่นๆใจอยู่ จะไหวมั๊ยเนี่ย ลงไปอีกสีนึงละกัน สีชมพูคอปเปอร์ ลงชิดแนวขอบตา


สีชมพูคอปเปอร์เอามาจากชิมเมอร์ของป้า บ๊อบบี้ อันนี้ค่ะ

4. จากนั้นก็กรีดอายไลเนอร์


5. ไหวไม่ไหว สู้ไม่สู้ ลงสีเขียวเพิ่มไปอีกที่ขอบตาล่าง เอ้า สีสู้กันเข้าไป



6. เขียนขอบตาล่าง วันนี้ใช้เจลไลเนอร์สีดำค่ะ จากนั้นติดขนตา ปัดมาสคาร่า



ดูขนตาเค้าซะก่อน



7..ใช้สีส้มในพาเลตท์เดิมผสมสีชมพูปัดแก้ม จากนั้นทาปากด้วยสีนู้ดออกส้มน้ำตาลแท่งนี้

แล้วหน้าตาก็จะออกมาเป็นแบบนี้

ฮ่าๆๆ งานนี้สงสัยจะไม่ใช่ จอย รินลณี แต่เป็น จอย รินแล้วหนี เหมือนแค่รูปปากก็ยังดี  เห็นมั๊ยค่ะว่า การนำอายแชโดว์สีที่เราไม่ค่อยได้ใช้มาผสมกัน จะทำให้เกิดลุคส์ใหม่ แต่งตามอาจารย์ผู้ใหญ่ หมาไม่กัดค่ะ (แค่หอน)  แต่งหน้าไปก็คิดถึงเหล่า คณาจารย์ที่เอ็มทีไอไป อาจารย์ทุกคนที่นี่แต่งหน้าเก่งมาก และสอนดีมากๆ ส่วนลูกศิษย์ก็แก่นซนปนน่ารัก อย่างดิฉันนี่แหละค่ะ อิอิ

Tuesday, 22 November 2011

แต่งตา v shape ตอน 2

อีกแล้วเหรอคะ v shape  คือครั้งที่แล้วอาจจะเยอะขั้นตอนไปนิด วันนี้เรามาคัดเบ้าแบบง่ายกันค่ะ เอาแบบกึ่งคัดเบ้า กึ่งสโม้กกี้ กึ่งตากลม ดีมั้ยคะ


1. หลังจากขั้นตอนของรองพื้น วันนี้ขอลงบลัชครีมสีชมพูก่อน การใช้บลัชครีมจะช่วยให้สีแก้มติดนานขึ้น และดูระเรื่อใสๆดี  จากนั้นลงแป้งฝุ่นค่ะ




2. อาจจะลง eye primer ก่อนเพื่อให้สีอายแชโดว์ชัด ติดทน
 วันนี้ใช้พาเลตท์นี้ค่ะ









3.ระบายสีมุกออกส้ม ลงไปบริเวณเบ้าตา สีครีมตรงใต้โหนกคิ้ว



4. ใช้แปรงเขียนขอบตาแตะสีน้ำตาลแล้ววาดชิดแนวขอบตาบนแบบนี้ ตวัดหางขึ้น 45 องศา

5. ทำมุมตัววี โดยใช้แปรงคัดเบ้าลากจากมุมหางตาที่เราลงอายแชโดว์ ย้อนกลับไปที่เบ้าประมาณกึ่งกลางของตา

6. เกลี่ยให้เส้นที่เราลากไว้กลืนกัน โดยเกลี่ยให้ฟุ้งสูงไปทางโหนกคิ้ว


7. ถึงขั้นตอนนี้ใครอยากเขียนขอบตาแบบชิดขอบตา ก็ได้เลยค่ะ แต่วันนี้เกรซขอทำแบบใช้ดินสอเขียนเส้นใหญ่แล้วใช้อายแชโดว์เกลี่ยทับอีกทีแบบนี้ วิธีนี้จะทำให้ตาดูเปิด สำหรับตาเล็กๆจะดูโตขึ้น อีกอย่างนึง อยากจะคัดเบ้าให้ดูกึ่งๆสโม้กกี่ด้วย เบ้าที่เราเจาะไว้จะดูแคบลง


8. สำหรับขอบตาล่างใช้สีน้ำตาลลากจากหางตามาถึงกึ่งกลางตา ส่วนหัวตาใช้สีมุกลงเพื่อเพิ่มความสดใส จากนั้นใช้ดินสอเขียนขอบตาลากเส้นชิดขอบตาจนถึงกึ่งกลางตา



9. ติดขนตา ปัดมาสคาร่าบนและล่าง


10. ออกไปเช็คกับแสงธรรมชาติดูซิ จะเห็นว่าเบ้าที่เราคัดไว้ดูไม่ชัดมาก และบริเวณขอบตาดูฟุ้งคล้ายกับสโม้กกี้อาย


11. แต่งหน้าส่วนที่เหลือ ปัดชิมเมอร์เพิ่มหนือโหนกแก้มอีกนิดนึง ส่วนปากทากลอสสีโปรดลงไป

เสร็จแล้วค่า แล้วถ้าไม่แต่งตา แค่ปัดแก้มทาปาก ได้มั้ยคะ ขึ้นดูกับใบหน้าของแต่ละคนค่ะ ถ้าเครื่องหน้าคุณชัด สวย คือ คิ้วได้รูป ตาเป็นชั้นสวยงาม ขนตางอนยาว จมูกเป็นสัน จะแค่ปัดแก้มทาปากก็ได้ค่ะ หรือ ถ้าคิดว่าแค่ปัดแก้มทาปากชั้นก็สวยแล้ว ก็ได้ค่ะ  แต่ถ้าเครื่องหน้าคุณไม่ชัด หรือใบหน้าไม่ได้รูป  ตาบวมตุ่ย ขนตาสั้นจู๋ ดั้งแบน ปากหนา การแต่งตาก็ช่วยดึงความสนใจจากจุดบกพร่องอื่นบนใบหน้าได้นะคะ อย่าเพิ่งเชื่อแต่ต้องลองเองค่ะ

Monday, 21 November 2011

แต่งตา smoky eye

พบกันอีกแล้วนะคะ ครั้งนี้จะเป็นการแต่งตาด้วยสีเข้มและเกลี่ยให้ฟุ้งขึ้นไปเหมือนหมอกควัน ซึ่งเป็นที่มาของชื่อที่เรียกกันว่า สโม้กกี้อาย การแต่งตาสโม้กกี้ให้สวยนั้น อยู่ที่สีของอายแชโดว์ควรจะเข้มพอ และการเกลี่ยให้ฟุ้งกระจายจะทำให้ตาดูเซ็กซี่ขึ้น สาวๆหลายคนมักทาตาสโม้กกี้อายแบบทึบๆ คือ น้ำหนักของสีเน้นเท่ากันทั้งเบ้าตา ซึ่งจะทำให้ดูคล้ายหมีแพนด้ามากกว่าสวย  ควรแต่งอย่างไร เรามาเริ่มพร้อมๆกันค่่ะ

1.หลังจากการรองพื้นและลงแป้งเรียบร้อยแล้ว

 ก็อาจลงเบสปริมาณเล็กน้อยที่เปลือกตาเพื่อสีสันที่ชัดเจนติดทน


2.ระบายสีเข้มเลยที่เบ้าตา ในลักษณะครึ่งวงกลม เกลี่ยจากหางตาเข้าหาหัวตา วันนี้เกรซใช้สีน้ำเงินออกเทาชิมเมอร์ทาเบ้าตา แล้วใช้สีครีมทาบริเวณโหนกคิ้ว พอดีถ่ายรูปเปิดแฟลตแล้วไม่ค่อยจะเห็นสีเท่าไหร่ แต่ของจริงเข้มเลยล่ะค่ะ
 







3. แตะสีดำลงบริเวณที่เราลงสีเข้มไปแล้วประมาณ 3/4 แล้วเกลี่ยให้กลืนกัน เน้นน้ำหนักที่หางตา หากรู้สึกว่ายังดำไม่พอก็แตะสีดำเพิ่ม หรือใช้ดินสอเขียนขอบตาลากตามเส้นขอบตาแล้วเกลี่ยให้ฟุ้งก็ได้ค่ะ กรณีหลังนี่ดำแน่นอน อ๊ะเดี๋ยวก่อน เนื่องจากลงสีดำไปแล้ว อยากลงสีเพิ่มอีกหนึ่งสีตรงเหนือเบ้าตาก็ลงเลยค่ะ เกลี่ยให้กลืนหายไปที่โหนกคิ้ว เกรซใช้สีน้ำตาลแดงมุกจากพาเลตท์เดิมลงค่ะ
(สำหรับคนตาห่าง การเน้นน้ำหนักให้ทำที่หัวตาแล้วจางออกไปทางหางตา เพื่อดึงรูปตาให้มาชิดจมูกมากขึ้้น)


4. สำหรับขอบตาล่าง ใช้สีเข้มสีแรกที่ใช้กับเบ้าตาทาจากหางตาสู่หัวตา ตรงบริเวณหางตาจนถึงกลางตาดำ อาจระบายขอบให้หนาขึ้นอีกนิดก็ได้ค่ะ สวยดี เพราะเราต้องการความฟุ้ง จำได้มั้ยค่ะ จากนั้นเขียนขอบตาด้วยดินสอสีดำ ยิ่งดำยิ่งดีค่ะ เพราะ เราลงสีเข้มไปซะขนาดนั้น ก็ต้องงัดดินสอเขียนขอบตาสีดำกว่ามาสู้กันหน่อย ตรงหัวตาใช้ชิมเมอร์สีเงินในพาเลตท์เดิม แตะนิดนึงเพื่อเพิ่มความสว่างเย้ายวนให้แก่ดวงตา

5. กรีดอายไลเนอร์ขอบตาบน อาจจะเขียนเส้นใหญ่นิดนึงเพื่อความเด่นชัด ส่วนหางตาใครชอบก็เขียนหางเชิดๆเริ่ดๆได้เลยค่ะ จะได้ดูเหมือน ตาแมวยั่วสวาท

 6.ถึงขั้นตอนนี้ถ้าหิวข้าว ก็ไปกินข้าวก่อนค่ะ จากนั้น ติดขนตาปลอม เราติดขนตาปลอมก็จริง แต่ติดอย่าให้ดูปลอม งงมั้ยค่ะ เสร็จแล้วก็ปัดมาสคาร่า ปัดซ้ำหลายรอบได้ เพราะวันนี้เราแต่งตาค่อนข้างเข้ม




7. ลองไปเช็คแสงข้างนอกดูสิ ถ่ายรูปโดยไม่ใช้แฟลซ


ไหนลืมตาซิน้องสาว
จัดให้ดูหน้าเต็ม

                                
เนื่องจากเราแต่งตาจัดเต็มไปแล้ว ดังนั้นแก้มและปากควรจะเบาๆ เกรซใช้สีส้มปัดแก้ม ปากใช้สีนู้ดออกส้ม ใช้บรอนเซอร์ปัดบริเวณกรอบหน้า ครั้งต่อๆไปเกรซจะพูดถึงการลง ไฮไลท์ เฉดดิ้ง และบรอนเซอร์ เพื่อสร้างแสงเงาและแก้ไขรูปหน้า หรือถ้าใครถ้าอยากให้เกรซพูดถึงเรื่องอะไร ก็โพสต์มาถามได้นะคะ
น้องฟีบี้แต่งสโม้กกี้อายสีน้ำตาลแบบนี้โอเคมั้ยคะ

Sunday, 20 November 2011

How to apply eyeshadow for almond eyes

Hello gorgeous , generally almond eyes  is a perfectly eyes for the women. Because it's easy to apply  eyeshadow on and there are many possibility to create many looks from this eye shape. A lot of asian women have the eyes like this.However some almond eyes are a bit narrow , some have the swollen eye lid. If you apply the eyeshadow in the wrong way,it can make your eyes appear smaller.Nobody want that i guess.
So we gonna make it better by make your almond eyes  appear more roundness and bigger.

Step by step

1. After the foundation & powder, I suggest you to use the eye primer. It helps your eye make up go long way and not fade out during the day.

2. Always use at least 2-4  color shades  to apply : light , medium , dark  and darkest shades to make the almond eye appear more dimension and dramatic.



3. Apply  the medium - toned shade all over the eye lid upward to the brow bone ,sweep it like a half round then add the light shade to the brow bone as a highlight<go for pearl shade if you like>. Be careful with blending  ,don't go further than the outer crease.


4. If you have normal almond eyes then apply the dark shade 1/2 of the medium shade area. If you have  swollen eyes<some kind like a fatty eye lid> Blend the dark shade 3/4 of the medium shade to reduce the swollen , blend it out from the outer crease inward the inner crease. For the dimension the outer area must darker than the inner area.But if you have a wide -set eyes ,do it opposite,blend it  from the inner crease toward the outer crease. Inner area must darker than outer area for bringing both side of the eyes get closer.


5.Apply the darkest one on the eye lid and diffuse it upward. Then draw the eyeliner along the upper lash line,you can make the line thicker but not longer than the outer corner.


6.For the lower lid, draw the line along the lower lash line from the outer  to the middle part of the lash line <2/3>then smudge it with the dark shade eyeshadow and apply the light shade on the inner lower lash line.


7.Apply 2-3 coats mascara to the upper eye lashes and also the lower eye lashes<if you have some>. If the real one it 's not enough for you,go for the false eye lashes. It works well and bring a lot of different on your facial feature.




Yeah,I did it. To complete this looks,apply pink or peach blush-on gentenly on the cheek and wear your favorite lip color. Next time i will show you how to make the eyes appear deeper It called V shape eyes. Thank you for visiting