Saturday, 3 December 2011

Lipstick สีไหน ทาปาก อย่างไร เลือกลิปสติก ทำอย่างไร

คำว่า ลิปสติก มาจาก lip + stick สันนิษฐานว่า เริ่มแรกเค้าคงผลิตออกมาเป็นรูปแท่ง แต่พอมาถึงยุคนี้ โอ้โห ไหนจะแท่ง ตลับ หลอด ดินสอ จะเป็นเนื้อแมท เนื้อมุก เนื้อกลอส เนื้อเจล เนื้อเหลว สารพัดไปหมดใช้กันแทบไม่หวาดไม่ไหว  ลิปสติกมีความสำคัญแทบจะที่สุดสำหรับผู้หญิงที่แต่งหน้า เพราะคงไม่มีใครแต่งหน้าแล้วไม่ทาปากใช่มั้ยคะ บางคนแม้จะไม่ทาแป้ง ไม่แต่งหน้า แต่ขอทาปาก อ้าว! หลายๆคนรวมถึงคุณแม่ของดิฉันด้วย ที่ทาแต่แป้งและทาปาก เป็นอันเสร็จพิธี บางคนทำแค่นี้แล้วรอดก็มี แต่ที่ทำแค่นี้แล้วเหมือนซาลาเปาแต้มสีแดงตรงกลาง ก็เยอะอยู่ แล้วตรูจะทำเยี่ยงไร
มาเริ่มกันที่

1. บำรุง ต้องเตรียมริมฝีปากให้เรียบนุ่มชุ่มชื้นก่อน ควรขัดปากบ้างเป็นครั้งคราว โดยใช้สครับสำหรับริมฝีปาก หรือ อาจใช้วิธีง่ายๆ เช่น นำน้ำตาลมาผสมกับน้ำผึ้ง หรือ น้ำตาลผสมน้ำมันจากธรรมชาติ(งา มะพร้าว มะกอก) แล้วขัดเบาๆ ด้วยนิ้ว หรือ แปรงสีฟันขนอ่อนๆ เมื่อล้างออกแล้วก็เติมความชุ่มชื้นด้วย  ลิปมัน ลิัปบาล์ม หรือ วาสลีนปิโตรเลียมเจลลี่ ทำอย่างนี้เป็นประจำจะทำให้ปากนุ่มเรียบค่ะ ควรดื่มน้ำให้เพียงพอในแต่ละวันด้วยนะคะ
2. รู้จัก  ลักษณะริมฝีปากของตัวเอง ว่า ริมฝีปากบนล่าง หนาหรือบาง อย่างไร อาจจะ บนบางล่างหนา บนหนาล่างบาง ปากยู่ยี่ไม่เป็นกระจับ ปากเล็ก ปากใหญ่ ฯลฯ

3. เลือก ประเภทของลิปสติก 
ลิปสติกแม่สี Mti
ริมฝีปากเล็ก ทาลิปสติกเนื้อมุก วาว สีอ่อน หรือกลอสสี จะช่วยทำให้ปากดูอวบอิ่มขึ้น ถ้ามีลิปสติกเนื้อด้านอยู่ก็ทากลอสทับลงไปค่ะ
ตัวอย่าง กลอสใสค่ะ
ริมฝีปากหนา ทาลิปสติกเนื้อแมทต์ หรือ เนื้อครีม สีเข้ม และควรเขียนขอบปาก จะทำให้ปากดูเล็กได้รูปขึ้น
ริมฝีปากไม่ได้รูป คือไม่มีรอยหยัก แนะนำให้เขียนขอบปากด้วยดินสอ ก่อนทาลิปสติก
ริมฝีปากแห้ง ไม่ควรทาลิปเนื้อแมทต์ หรือเนื้อด้าน  จะทำให้ปากยิ่งลอกแห้ง อ้าวแล้วถ้าปากหนาแบบแห้งๆล่ะคะ แก้โดย บำรุงด้วยลิปมันแล้วซับออก เขียนขอบปากก่อนแล้วลงเป็นเนื้อครีมที่ไม่มันวาวก็ได้ค่ะ สมัยนี้มี lip primer เป็นลิปที่ใช้รองพื้นก่อน คุณสมบัติคือ ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น และเคลือบปิดร่องริมฝีปากทำให้ริมฝีปากดูเรียบเนียนขึ้น ไปสอยมาลองกันได้จ้ะ
4. ทา ตรงไหน
แน่นอนค่ะ ตรงปาก โดยใช้พู่กันทาปาก จะทำให้ได้รูปทรงดีกว่าทาลิปสติกจากแท่ง หรือ ถ้าใครจะผสมสีหรือใช้ ลิปพาเลตท์ ก็ต้องใช้พู่กันทาปากอยู่แล้ว หากว่าริมฝีปากของคุณบนล่างไม่เท่ากัน  แก้ได้ดังนี้
หากริมฝีปากบนบาง ให้เขียนแนวขอบปากบนใหม่ให้ใหญ่ขึ้นแล้วทาทับด้วยลิปสติกสีอ่อน
หากปากบนหนา ก็เขียนขอบปากบนให้เล็กกว่าปากจริงแล้วทาลิปสติกสีเข้มทับ ส่วนริมฝีปากล่างก็ใช้ทฤษฏีเดียวกัน แต่ต้องทำความเข้าใจก่อนว่า สีเข้มในที่นี้ไม่จำเป็นต้องเป็นสีสดนะคะ อาจจะชมพูอมน้ำตาลเข้ม ส้มอมน้ำตาลเข้ม ประมาณนี้อ่ะค่ะ
หรือ หากคุณเป็นคนรูปหน้าเล็ก อย่าเขียนปากให้ใหญ่ และหากคุณเป็นคนรูปหน้าใหญ่ไม่ควรเขียนปากให้เล็ก ตามหลักของความสมดุล
การทาปากที่กล่าวไปข้างต้น อาจสร้างความสับสนให้กับมือใหม่หัดแต่ง และการเขียนแนวขอบปากใหม่ก็ไม่ใช่เรื่องง่าย ยิ่งเป็นกลางวัน แต่งแบบเบาๆ จะเขียนขอบปากให้ดูเป็นธรรมชาติก็ยากขึ้นไปอีก เราอาจใช้วิธีอื่นที่ง่ายกว่าแทน เช่น
จำแค่ว่า ปากบางทาสีอ่อน ลงกลอส ปากหนาทาสีเข้ม เขียนขอบ ไม่วาว จบค่ะ หรือ

เน้นแต่งตา เพราะจะช่วยดึงความสนใจจากรูปปากไปได้ หากแต่งตาเข้มแบบสโม้คกี้อายส์ ก็ทาปากแบบนู้ด เอ๋อๆ เบลอๆ ก็สวยดีค่ะ
สีนู้ดที่ชอบมากกกก M.A.C
ถ้าปากบางก็ทากลอสทับให้วาว ถ้าปากหนาก็ไม่ต้องเน้นค่ะ  หรือใครจะทำแบบอั้ม แตะสีจากด้านในริมฝีปากออกมาให้ความเข้มอยู่ด้านในของริมฝีปาก ก็ได้ค่ะ
แล้วการทากลอส ให้ทาทั้งปากเลยมั๊ยคะ ตามหลักการแล้ว ริมฝีปากบนให้แต้มสองจุดตรงกลาง ริมฝีปากล่างหนึ่งจุดตรงกลาง แต่ในความเป็นจริง ทาไปสักพักมันก็ผสมกันไปทั้งปาก เพียงแต่ว่า ถ้าเราทาเฉพาะจุดมันจะทำให้ปากดูมีมิติมากกว่าและดูไม่เยิ้มจนเกินไป



ทาลิปสติกอย่างไร ให้ติดทน
bobbi brown
lip palette
หลักการคือ รองพื้นที่ปากด้วย ถ้าใช้แป้งฟัฟก็ให้แตะที่ปากด้วย เขียนขอบปาก จากนั้นทาลิปสติกหนึ่งรอบ แล้วใช้ทิชชู่ประกบที่ปากเพื่อซับออก จากนั้นทับด้วยแป้งอีกหนึ่งรอบแล้วทาลิปสติกซ้ำอีกครั้ง หากเป็นคนปากแห้ง เริ่มต้นให้บำรุงด้วยลิปมัน แล้วซับออกก่อนลงรองพื้น หรือสาวๆที่ไม่อยากยุ่งยาก อาจเลี่ยงไปใช้ลิปสติกแบบ long lasting เลยก็ได้ แต่ไม่ว่าลิปสติกจะติดทนแค่ไหน ถ้าคุณไปกินข้าว หรือของมันๆประเภทกล้วยทอด ลูกชิ้นทอด ลิปสติกก็หลุดค่ะ ไม่ว่าจะทาลิปสติกแบบไหน เวลาล้างทำความสะอาด ก็ควรใช้ผลิตภัณฑ์สำหรับริมฝีปากโดยเฉพาะ เช็ดอย่างอ่อนโยน ไม่ขัดถู การล้างลิปสติกออกไม่หมดอาจก่อให้เกิดปัญหาปากดำคล้ำตามมาได้ค่ะ
อ่านมาถึงตรงนี้ หลายท่านคงจะปวดหัวและรำคาญใจ จะอะไรกันนักหนายะ แค่ทาปาก ส่วนตัวเกรซเองก็ไม่ค่อยให้ความสำคัญกับเรื่องนี้เท่าไหร่ เพราะปากได้รูปอยู่แล้ว ฮ่าๆ พูดเล่นค่ะ เนื่องจากปกติแต่งตาเต็ม ดังนั้นปาก จึงไม่ค่อยเน้นเท่าไหร่ เอาแบบสีสวย เบาๆ เข้ากับโทนการแต่งหน้าของวันนั้นก็พอ แต่ถ้าวันไหนไม่แต่งตา กรีดแต่อายไลเนอร์แล้วทาปาก ถึงจะค่อยปราณึตบรรจงกับการทาปากหน่อยนึง
ลิปสติกสีไหนสวยค่ะ 
 จริงๆมันก็มีหลักอยู่นะคะว่า ดูจากอันเดอร์โทน หรือพื้นผิวเราว่า อมชมพูหรืออมเหลืองหรือน้ำตาล ก็ควรจะเลือกสีลิปสติกให้มีสีของพื้นผิวเราผสมอยู่ด้วย เช่น ผิวอมชมพู ถ้าจะทาสีส้ม ก็อาจจะเลือกเป็นส้มอมชมพู หรือผิวคล้ำจะทาสีชมพูก็อาจเลือกเป็นสีชมพูอมน้ำตาล แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น มันก็คือหลักการ แม้แต่ตามเวปไซต์ หรือบล็อคต่างๆที่สาวๆเค้าเข้าไปแชร์กันว่า สีนั้นสีนี้สวย คุณทาแล้วอาจจะไม่สวยก็ได้ ดังนั้น วิธีที่ดีที่สุดคือ ต้องไปลองเองค่ะ ของเกรซสีที่ชอบมากๆก็คือ

กลอสแท่งโปรด สี lust ของ M.A.C เป็นสีส้มนู้ด
ลิปสติกคู่บุญ see sheer สีออกพีช

ลิปพาเลตท์
แม้สารรูปจะเยินมาก แต่ก้อ  Dior นะจ้ะ อย่ามา
ข้อดีของพาเลตต์คือ  มันมีหลายสีดี ผสมกันไปมาได้ และ การที่เจ้าของแบรนด์เค้าเลือกสีเหล่านี้มาลงพาเลตท์ เค้าคงคิดมาแล้วแหละค่ะว่าสีนี้เด็ด 
แต่ถ้าคุณมีลิปสติกอยู่แท่งนึงที่ทาแล้วไม่ค่อยสวย  หรือเบื่อกับสีเดิมๆ ก็อาจเอามาผสมกับสีอื่นๆ เป็นลิปสติกสีใหม่ ตัวอย่างเช่น
ส้มผสมน้ำตาล เป็น ส้มอมน้ำตาล
แดงอมม่วง มาจากสีแดงผสมสีม่วง
หรือเอามาผสมกับวาสลีนทำเป็นลิปมันเจือสี หรือเอามาทำเป็นรูจทาแก้ม ลิปสติกบางสีทาปากไม่สวย แต่พอลองนำมาทาแก้มแล้วสวยก็มี
วันไหนตื่นขึ้นมาแล้วไม่ค่อยสดชื่น รู้สึกเบื่อๆ เซ็งๆ ลองเปลี่ยนสีลิปสติก และเปลี่ยนสีสันของเสื้อผ้าดูนะคะ เผื่อคุณจะได้ค้นพบคุณคนใหม่ ที่สดใสกว่าเดิม  แล้วพบกันใหม่ค่ะ



No comments:

Post a Comment