Tuesday, 13 December 2011

วิธีเลือก แป้ง แป้งทาหน้า ยี่ห้อไหน ดี


Powder มีเพื่อนสาวได้ไถ่ถามกันเข้ามา ให้ดิฉันแนะนำแป้ง ซึ่งดิฉันเค้าใจว่าน่าจะเป็นแป้งผสมรองพื้นทาหน้า ไม่ใช่แป้งทำขนมหรอกนะ โดยส่วนตัวเวลาแต่งหน้าชอบใช้รองพื้นเหลวกับแป้งฝุ่นที่สุดค่ะ ใช้แป้งผสมรองพื้นบ้างเวลารีบๆ(ประมาณสองถึงสามครั้งต่อปี) เหตุผลที่ชอบใช้รองพื้นเหลวกับแป้งฝุ่น เพราะ รองพื้นเหลวสามารถปกปิดรอยต่างๆได้ดีในระดับหนึ่ง ในขณะเดียวกันเมื่อทาแป้งฝุ่นทับ มันสามารถช่วยกระจายแสงได้ดีกว่า ใบหน้าเวลาแสงตกกระทบจะแลดูใส มีน้ำมีนวลกว่า  ในขณะที่แป้งผสมรองพื้นจะดูทึบแสงกว่า  (อ้าว แป้งแบบกระจายแสงก็มีนี่นา ดิฉันลองมาหมดแล้วค่ะคุณ) อีกประการหนึ่งคือ เวลาลงสีสันบนเปลือกตาและแก้ม รู้สึกว่า สีสันจะติดทน สีสวยกว่า ดิฉันจะรองพื้นแต่งหน้าในตอนเช้า จากนั้น ถ้าหน้ามันจะใช้กระดาบซับมันซับออก จะไม่เต็มแป้งระหว่างวันใดๆอีก เพราะเครื่องสำอางค์ก็ยังติดทนดี อันนี้เป็นความเห็นส่วนตัวบวกกับสภาพผิวของดิฉันนะคะ บางคนที่ทาเฉพาะแป้งผสมรองพื้นแล้วสวยเนียน ก็มีเยอะ เอาเป็นว่าเรามาดูถึงหลักใหญ่ในการเลือกแป้งกัน


1. รู้จัก สภาพผิวหน้าของตัวเอง ว่า ผิวแห้ง ผิวมัน ผิวผสม ผิวธรรมดา ผิวขาดความชุ่มชื้น บางคนหน้ามันแต่ผิวขาดน้ำก็มี ถ้ายังไม่แน่ใจลองเดินป้วนเปี้ยนไปแถวเคานเตอร์ที่เค้ามีตรวจสภาพผิวหน้าฟรี ก็ลองไปตรวจดูค่ะ ถ้าโดนปั่นให้ซื้อของแล้วค่อยชิ่งหนีออกมาฮ่าๆ  และที่สำคัญ ควรบำรุงผิวอย่างสม่ำเสมอ เพราะถ้าสภาพผิวไม่ดี แป้งลังโคม ลังไม้ ก็ช่วยคุณไม่ได้นะจ้ะ


2. วิเคราะห์ ความต้องการของตัวเองว่า ต้องการใช้แป้งเพื่อ
- ปกปิดรอยดำ ฝ้า กระ รอยสิว
- ปกปิดสีผิวที่ไม่สม่ำเสมอ
- ปกปิดริ้วรอย
- ควบคุมความมัน ป้องกันแสงแดด
- เพิ่มความกระจ่างใส นวลเนียน ให้กับผิวหน้า(ที่ดีอยู่แล้ว)
- ใช้ในวันทำงานปกติ ใช้ในโอกาสพิเศษ ใช้สำหรับวันพักผ่อนเบาๆ
แล้วค่อยไปเสาะหาแป้งที่ตอบโจทย์ความต้องการของคุณค่ะ จะเอาแบบผสมรองพื้น ควบคุมความมัน แป้งอัดแข็ง แป้งเค้ก ก็เลือกได้ตามใจชอบ

3. งบประมาณ สำหรับเรื่องนี้ ทุ่มได้เท่าไหร่ บางคนซื้อแป้งที คิดประมาณสามอาทิตย์ แต่พอเรื่องกิน ถึงไหนถึงกัน บางคนเรื่องเครื่องสำอางค์ทุ่มสุดตัว เรื่องกินเรื่องเที่ยวเดี๋ยวค่อยว่ากัน นานาจิตตัง เอาเป็นว่า งบน้อย ก็เลือกซื้อแป้งราคาประหยัด เพราะของถูกแล้วดีก็มี ของแพงใช้แล้วไม่ดีก็เยอะ  เพียงแต่แป้งแพง จากบริษัทใหญ่ เค้ามีการค้นคว้าวิจัยโน่นนี่ ลูกเล่นมากมาย กระจายแสงบ้างล่ะ ปกปิดริ้วรอย ติดทนนาน บ้างล่ะ ผสมเซรั่มบำรุงผิวบ้างล่ะ  ที่สำคัญมีเฉดสีให้เลือกค่อนข้างมาก เอาเป็นว่า ใช้อะไรก็ได้ที่เหมาะกับตัวคุณ น่าจะดี


4.อย่าหลอกตัวเองเรื่อง สีผิว บางคนผิวคล้ำชอบซื้อแป้งขาวกว่าผิว ทาแล้วดูหลอกตามาก หรือบางคนรู้ตัวว่าผิวคล้ำ แต่เบอร์แป้งสีเข้มสุดก็ยังขาวกว่าผิว แนะนำว่า เปลี่ยนยี่ห้อค่ะ บางยี่ห้อมีแป้งตั้ง 20 เบอร์ มันต้องมีสักอันล่ะน้า หรือ ถ้าหน้าไม่มีริ้วรอย จุดด่างดำ มากมายก็เปลี่ยนไปใช้แป้งแข็งแบบไม่มีสียังจะดีกว่า คนผิวออกเหลืองมากควรใช้แป้งอมชมพู คนผิวออกชมพูมากให้ใช้แป้งอมเหลือง เพราะทำให้ผิวแลดูสุขภาพดีขึ้น ผิวเหลืองอยู่แล้วใช้แป้งออกเหลืองอีก อาจกลายร่างเป็นปีศาจหน้าฟักทองไปได้ แต่ในยุคนี้ แป้งที่ผลิตออกมาเค้ามักผสมเม็ดสีเหลืองและชมพูด้วยกันอยู่แล้ว แต่เราไม่ค่อยรู้ เอาเป็นว่าลองทาดูถ้ามันทำให้ผิวเราดูเปล่งปลั่งก็เป็นอันใช้ได้


5.มันเป็นการยากที่จะไปลองทาแป้งดูแล้วจะรู้เลยว่า แป้งตัวนั้นดีหรือป่าว เพราะอย่างน้อยคุณต้องทาแป้งนั้นๆแล้วออกไปโลดแล่นใช้ชีวิตประจำวันปกติ แล้วจึงจะรู้ว่าแป้งนั้นดีจริงหรือไม่ อย่าเชื่อแสงไฟในห้าง เพราะผิวทุกคนจะดูดีเกินจริงเหมือนกันหมด  สัญญาณที่จะบอกว่าแป้งนั้นเหมาะกับเราหรือไม่นั้นคือ
- ทาแล้ว ตอบโจทย์ความต้องการของเรา เช่น ต้องการทาเพื่อปกปิด แล้วมันปกปิดมั้ย อำพรางร่องริ้วรอย แล้วทำอำพรางมั้ย
- ความติดทน แป้งดีคงไม่ถึงกับว่ามันจะต้องติดทน24 ชั่วโมง ก็มันควรจะติดทนในระดับที่เราไม่ต้องมานั่งโบ๊ะ ทุกสองชั่วโมง และเวลาเหงื่อออกต้องไม่เป็นคราบ
- เฉดสี มันกลมกลืนกับผิวบริเวณลำคอ แขนขาหรือไม่ ถ้าหน้าขาวอย่างเดียว ส่วนอื่นดำก็ไม่ไหวจะเคลียร์นะคะ หรือทาแป้งนั้นๆแล้วหน้าหมองเหมือนมีคนทำของใส่ อันนี้ก็ไม่ผ่าน

6. อาการแพ้ และสิว ถ้าใช้แป้งแล้วแพ้ อาการมันจะแสดงออกมาเลยค่ะ เช่น ผื่นคัน แสบร้อน ควรหยุดใช้ ถ้าอาการมากก็ปรึกษาแพทย์ แต่ถ้าสิวขึ้นเนี่ย ต้องมาพิจารณาว่า คุณล้างเครื่องสำอางค์ออกอย่างสะอาดแล้วหรือป่าว เพราะถ้าล้างเครื่องสำอางค์ไม่สะอาด แป้งยี่ห้อไหนสิวก็ขึ้นค่ะ
พูดไปบ่นไปก็เยอะแล้ว เกรซขอเล่าถึงประสบการณ์ของตัวเองก็แล้วกัน ขนาดเป็นคนไม่ชอบใช้แป้งผสมรองพื้น แต่ก็ลองมาเยอะเหมือนกัน บางยี่ห้อใช้แล้วไม่ชอบเลย จะไม่ขออ้าง หรือบางยี่ห้อที่ไม่ได้พูดถึงเพราะไม่เคยใช้ ซึ่งอาจจะใช้ดีมากก็ได้ สาวๆคนไหนมีอะไรดีเข้ามาโพสต์แชร์ข้อมูลกันได้ค่ะ


ความเนียน
 แป้ง M.A.C studio fix plus foundation เรื่องความเนียน ติดทน ยอมรับให้เป็นอันดับหนึ่งค่ะ แต่แป้งตัวนี้คนหน้ามันต้องระวังนิดนึง เพราะหน้าจะดูมันขึ้นนิดนึง แต่ก็ไม่ได้มากมาย อีกอย่างนึงคือ พอทาไปซักพัก สีแป้งจะดร๊อป คือ หน้าคล้ำ ขื้น ปกติเวลาไปซื้อ บีเอ (ที่ดี) จะแนะนำให้เลือกสีขาวกว่าสีผิวหนึ่งเบอร์เพราะทาไปแล้ว สีจะดร๊อปมาเท่ากะสีผิวค่ะ เครื่องสำอางยี่ห้อนี้ดีอย่างนึง คือ พวกตลับ หลอดผลิตภัณฑ์ที่ใช้หมดแล้ว สะสมครบหกชิ้น แลกลิปสติกได้แท่งนึงแน่ะ เริ่ด ชอบตรงนี้แหละ


อีกตัวที่เนียน คือ Covermark moisture veil  ราคาสูงพอสมควร แต่ต้องบอกเลยว่า เรื่องรองพื้นและแป้ง ยี่ห้อนี้เค้าทำมาตรฐานมาได้ค่อนข้างสูง เคยใช้แป้งและรองพื้นของเค้ามาหลายรุ่นเหมือนกัน ซึ่งดี แป้งตัวที่พูดถึงคือ moisture veil ทาแล้วเนียน เวลาเหงื่อออกนิด จะสวย เพราะเค้ามีเทคโนโลยีเหมือนกับเปลี่ยนน้ำมันบนผิวให้ช่วยกระจายแสง กันน้ำ กันเหงื่อด้วย ประมาณนี้ แต่เนื่องจากดิฉันผิวผสม เวลาทาแป้งตัวนี้ก็ซับมันค่อนข้างบ่อย ถ้าใครหน้าแห้ง ใช้ได้ดีค่ะ เพราะเค้ามีสารบำรุงเพิ่มความชุ่มชื้นแก่ผิวด้วย ใครที่ผิวผสมก็สามารถเปลี่ยน ไปใช้อีกรุ่นนึงได้ คือ Natural fix  รุ่นนี้จะถูกกว่านิดนึง
ยี่ห้ออื่นๆที่ได้ยินได้ฟังมาว่าดี ก็คือ Kanebo แต่ยังไม่มีโอกาสได้ลองเองค่ะ


และอีกยี่ห้อนึงที่เกรซค้นพบเองโดยบังเอิญ คือ Tell me sport spf 20ทั้งแบบ Nourishing สำหรับผิวแห้ง และ Oil control สำหรับ ผิวผสมหรือผิวมัน ใช้ดีค่ะ เนียนอย่างไม่น่าเชื่อ ราคาถูกกว่าการรับประทานอาหารญี่ปุ่นหนึ่งมื้อ ปกปิดถือว่าดี แต่ไม่เท่ารองพื้นครีม ใบหน้าไม่เป็นคราบระหว่างวันค่ะ

ความทน
แป้ง Estee lauder double wear stay in place ติดทนค่ะ ประมาณ 8 ชั่วโมงน่าจะได้ ตอนที่ซื้อมาใช้ก็เพราะ ใช้รองพื้นเหลวในรุ่นนี้แล้วติดใจ เลยขอลองแป้งผสมรองพื้นมาใช้ด้วย บางครั้งถ้าลงรองพื้นเหลวกับแป้งฝุ่นแล้วต้องการความปกปิดมากขึ้นก็เอาแป้งอันนี้ปัดทับไปอีก เริ่ด ข้อดีของแป้งตัวนี้เหรอคะ คือ ติดทน เวลาเหงื่อออกแล้วไม่เป็นคราบค่ะ  ข้อเสีย คือ ราคาพอสมควร และ เฉดสีที่มีเข้ามาในประเทศไทยค่อนข้างน้อย เลือกเฉดสีให้เข้ากับผิวยาก

ความเนียนบาง
แป้ง sheene ค่ะ บางดี ใสๆ ใช้แล้วหน้าไม่มันด้วย ดิฉันชอบใช้สมัยเป็นสาวแรกรุ่น เพราะใช้แล้วหน้าดูเป็นธรรมชาติ แต่ตอนนี้ถ้าใช้แป้ง sheene คงเอาไม่อยู่ อีกยี่ห้อที่ชอบ คือ แป้ง Bsc จริงๆสองยี่ห้อนี้น่าจะเป็นเครือเดียวกัน Bsc เมื่อก่อนน่าจะเป็น Pias ตอนเป็นสาวยี่สิบต้นๆ ดิฉันชอบใช้เหมือนกัน ข้อดี คือเนียนบาง เฉดสีเข้ากับสีผิวเป๊ะ ข้อเสียคือ มันไม่ค่อยติดทนอ่ะค่ะ ต้องเติมแป้งระหว่างวัน วันนึงไม่ต่ำกว่าสามครั้ง เรื่องปกปิดริ้วรอย ไม่ค่อยอ่ะค่ะ ถ้าจะเอาแบบราคาสูง เพื่อนดิฉันใช้ channel กะ shu นางก็บอกว่าเนียนบางดีค่ะ

คุณภาพสมราคา
แป้ง Mti  feel perfect ค่ะ เนียน กันน้ำ กันแดด อันนี้แม่ดิฉันใช้แล้วชอบ คุณแม่ใช้แป้งยี่ห้อนี้แล้วหน้าผ่องมาก เป็นอีกยี่ห้อนึงซึ่งราคาไม่แพงมาก แต่คุณภาพดี กำลังจะให้คุณแม่ลองใช้รุ่น timeless อยู่เหมือนกัน ถ้าคุณแม่ใช้ดีแล้วจะมาบอก อ้าวแล้วทำไมแกไม่ลองเองล่ะ ลองแล้วค่ะ แต่แป้งตัวนี้ไม่ได้ตอบโจทย์ของผิวหน้าดิฉัน

แป้งฝุ่น
Clinique blended face powder สี invisible เป็นแป้งฝุ่นใช้คู่กับรองพื้น แบบไม่มีสี คือทาลงไปแล้วไม่เปลี่ยนสีของรองพื้น ใช้ได้กับรองพื้นทุกสี ควบคุมความมันได้ดีในระดับนึงเลยทีเดียว อนุภาคของแป้งเล็กจึงทำให้กลมกลืนกับผิวหน้า clinique เค้าเป็นแบรนด์ที่ทำเครื่องสำอางค์แบบไม่ผสมน้ำหอม ใช้แล้วไม่ค่อยแพ้ อันนี้คือ ข้อดี  แป้งฝุ่นอีกตัวที่ชอบมาก คือ Covermark moist lucent เพราะ อณูแป้งเล็กมาก เวลาทาแล้วจะกลืนหายไปกับผิวเลย เนียนมาก อีกรุ่นก็น่าจะเป็น Covermark loose powder ซึ่งก็ดี ราคาจะแตกต่างกันเล็กน้อย แต่ถ้าเทียบราคาระหว่างสองแบรนด์นี้ Clinique จะถูกกว่าค่ะ อีกยี่ห้อนึงที่เค้าว่ากันว่าดี น่าจะเป็น laura mercier ตั้งใจว่าจะไปลองอยู่เหมือนกัน แต่รอให้เค้าลดราคาก่อน จะแพงไปไหนกันจ๊ะอิป้า

เคล็ดลับ ว่ากันว่า หลังการทาแป้ง หากคุณฉีดน้ำแร่พรมที่หน้า(ฉีดห่างระยะประมาณ 1 ฟุต) รอจนน้ำแร่ซึมเข้าสู่ผิว ใช้ทิชชู่ซับส่วนเกินออก แล้วซับแป้งที่หน้าอีกครั้ง แป้งจะติดทน อันนี้ลองทำกันดู แต่ไม่รู้ว่าจริงอะป่าว
พอแล้วมะ พูดกันมาได้ประมาณนึง หวังว่าคงจะเป็นประโยชน์ก็สาวๆบ้าง ใครมีอะไรดีๆก็โพสต์แบ่งปันข้อมูลกันได้จ้า เป็นผู้หญิงก็อย่าหยุดสวย เป็นชะนีก็อย่าหยุดร้อง เกี่ยวกันมั้ยเนี่ย









No comments:

Post a Comment